หน้าเว็บ

วันอาทิตย์ที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

รีวิวบายาวีแบบดูโอ้ เล่ม 1-2 นิยายร้อนเปรียบดั่งแกงเผ็ดหม้อใหญ่



บายาวี ล.1
บายาวี ล.2

อะแฮ่ม วันนี้จะมารีวิวนิยายอีกเรื่อง (เรื่องนี้ได้ข่าวว่าดังมาก) จะไม่ดังได้ไงคะ ก็เล่นออกมาตั้งสามภาค แล้ว! ขึดเส้นใต้ให้เห็นเด่นๆ กันชัดๆ จะมีนิยายซักกี่เรื่องในบ้านเราโดยเฉพาะยูริที่จะออกกันเป็นทริปเปิ้ลได้ขนาดนี้ คำตอบก็คือก็บายาวีนี่แหละค่ะ เอาล่ะไม่รอช้าเข้าสู่เนื้อหากันเลย อ่ะ จะว่าไปที่จริงเรารอเล่ม 3 อยู่นะ ก็เลยแก้เบื่อโดยการเอาสองเล่มที่แล้วมารีวิวรอฆ่าเวลาเล่น

ถ้าให้สรุปเนื้อเรื่องสามบรรทัดสั้นๆ จะได้ว่า บายาวีเป็นเรื่องเกี่ยวกับการรับจ๊อบแปลกๆ ของนักเขียนสาวฤชุดา (เบลล์) ที่เดินทางไปบายาวีรีสอร์ทเพื่อทำให้เจ้าของรีสอร์ท ใบบุญ ตกหลุกรักเธอให้ได้ โดยที่เป้าหมายของผู้ว่าจ้างก็คือการแก้แค้น แค่นี้แหละค่ะพล็อตของบายาวี (จริงๆ) แต่นักเขียนเก่ง อันนี้ต้องชมตรงๆ คุณลลนลเก่งในการขยายความและขยายเรื่องต่อให้มันยาวไปได้ถึงภาค 3

ส่วนภาคสองนั้นจะมีตัวละครเพิ่มเติมเข้ามาคือ ภูชิตา หรือ โฟร์ท น้องสาวภูวดล ชายหนุ่มที่ตามจีบใบบุญมาตั้งแต่ภาคแรก ซึ่งเรื่องราวจะโฟกัสมาที่ตัวละครใหม่ตัวนี้กับบัวตองหลานสาวของใบบุญมากขึ้น ถ้าเทียบกันแล้วเราว่าภาคแรกกลมกล่อมกว่า (เผ็ดแบบควบคุมได้) แต่ภาคสองเราว่ามันเผ็ดเกินไปแบบโด่เด่ เราไม่ประทับใจเท่าภาคแรก ลุ้นอยู่ว่าภาคสามจะทำให้เรากลับมาประทับใจได้อีกไหม

เชื่อไหมคะทั้งที่รู้ว่าบายาวีดังแค่ไหน แต่เราก็ไม่ได้สนใจจะไปหามาอ่าน ตอนไปงานหนังสือก็เห็นโชว์หลาแต่ก็ไม่ได้คิดจะซื้อ แต่ไม่รู้ไงนะที่ตัดสินใจลองเข้าไปอ่านในเด็กดีแล้วรู้สึกติดใจจนต้องซื้อเป็นเล่มจนได้และก็ตามมาด้วยภาคสองโดยปริยาย เราอ่านนิยายเรื่องนี้ด้วยความรุ้สึกที่บอกไม่ถูกเป็นอย่างยิ่ง ฮ่าฮ่าฮ่า อย่าตกใจเราไม่ได้บอกว่ามันไม่สนุกนะคะ ผิดถนัดที่จริงเราติดหนึบหนับเลยมากกว่า

บายาวีเปรียบเสมือนแกงเผ็ดหม้อใหญ่ (จะแกงไตปลาหรือแกงเหลืองก็แล้วแต่ชอบ) เคยไหมกินเผ็ดจนปากเจ็บแต่ก็เลิกกินไม่ได้เพราะอร่อยแม้จะทรมาน นั่นล่ะคือคำจำกัดความของบายาวีเลย มันเผ็ดร้อนทั้งพล็อต(ว่าด้วยเรื่องการหลอกลวง แก้แค้น) และเผ็ดทั้งบทพูดของตัวละครด้วยลักษณะนิสัย คุณจะพบว่าเวลาผ่านไปไวมากในการอ่านนิยายเรื่องนี้ของคุณลลนล คือเราก็เคยอ่านงานของคุณลลนลมาหลายเล่มแล้วนะ แต่ก็ไม่เคยรู้สึกว่าหน้ามันพร่องไปไวขนาดนี้ จำนวนหน้าช่างน้อยเหลือเกินเผลอแป๊บเดียว อ้าว! จบแล้วเหรอ อย่าเพิ่งซิ ยังไม่สะใจเลย นั่นคือความรู้สึกที่คุณจะได้จากการอ่านบายาวี มันวางไม่ลงถึงขั้นนั้นจริงๆ เราคอนเฟิร์ม

แต่! ใช่ค่ะมีแต่ บายาวีมีข้อเสียบางประการที่ทำให้เราไม่สามารถรักมันได้เต็มๆ ขอย้อนเล็กน้อย ถ้าจำกันได้ในเอ็นทรี่ก่อนเราเคยบอกไปแล้วว่าเราไม่ชอบตัวละครประเภทที่ 'ชอบดูถูก(ดูแคลน)คนอื่น' อ่านประโยคนี้ดีๆ นะคะ มันต่างกันมากกับตัวละครที่ปากไม่ดี (หรือปากหมานั่นเอง) เราไม่ได้เกลียดคนปากมอม จะว่าไปตัวละครตัวหนึ่งที่เราแทบจะเรียกได้ว่าหลงรักนั่นก็คือนายแพทย์เกรกอรี เฮาส์ หรือหมอเฮ้าส์ นักบุญปากร้ายแห่งซีรี่ส์ House M.D. นั่นเอง เราไม่มีปัญหากับคนที่ปากโฮ่งๆ ถ้าจิตใจคนๆ นั้นดี 

เขียนมาถึงขนาดนี้บางคนคงตกใจว่ามีตัวละครไหนในเรื่องบายาวีที่จิตใจเลวงั้นเหรอ ที่จริงมันก็ไม่มีหรอกค่ะ อย่าเพิ่งเข้าใจผิด เพียงแต่จากการติดตามอ่านมาจนถึงภาค 2 เราก็ยังหาข้อที่จะทำให้เรารู้สึกดีกับตัวเอกเจ้าของรีสอร์ทอย่างใบบุญไม่ได้เลยสักกระพีกเดียว คือ ขอโทษนะ แต่แค่สวยมันไม่ได้ทำให้เรามองคนๆ นั้นเหนือคนได้หรอก เราไม่ได้หลงหรือประทับใจใครที่รูปกายภายนอก (มันก็มีบ้าง แต่ไม่ใช่ปัจจัยหลัก) ถ้าเราจะประทับใจใครส่วนใหญ่ต้องมาจากข้างใน มาจากความคิด ทัศนคติมากกว่า ซึ่งสำหรับเราใบบุญสอบตกในแทบทุกด้าน บางครั้งก็งงว่าทำไมทุกคนถึงได้หลงเธอกันหมด ถ้าเพราะแค่ความสวยอย่างเดียวมันดูไม่เมคเซนส์เลย

ที่จริงตัวละครประเภทปากอย่างใจอย่าง แข็งนอกอ่อนในถือว่ามีเสน่ห์ โดยเฉพาะเรื่องรักๆ เนี่ยนางเอกส่วนใหญ่ก็จะมีลักษณะนี้ แต่มันต้องอยู่ในขอบเขตที่จะไม่เลยเส้นคำว่า 'งี่เง่า' คือใบบุญมีลักษณะคล้ายสาวซึน แต่เป็นเวอร์ชั่นที่ไร้เหตุผล+งี่เง่าและน่ารำคาญกว่า มันคงจะดีกว่าถ้าใครในเรื่องจะกล้าหือกับเธอมากกว่านี้ อาจจะทอนความน่ารำคาญเธอลดลงได้ เสียดายที่ไม่มี เธอเลยดูเป็นคนที่ไม่น่ารักเอาเสียเลย เขียนมาขนาดนี้แฟนคลับใบบุญอาจไม่พอใจ ซึ่งจุดนี้มันก็คงจะแล้วแต่รสนิยมของแต่ละคนนะคะ คุณมีสิทธิ์ชอบเหมือนที่เรามีสิทธิ์เกลียด 1 คน 1 สิทธิ์นะคะ ที่จริงเราออกจะสงสารเธอด้วยซ้ำที่มาทำให้เราไม่ชอบหน้าได้ขนาดนี้ อันนี้ก็ต้องชมคนแต่งที่แต่งให้เราอินจัดมาก จะว่ากันตามจริงเราชอบใบบุญภาคแรกมากกว่าภาค 2 นะ ภาคแรกยังมีมุมที่เรารู้สึกว่าเธอก็น่ารักและรู้ถึงความงี่เง่าของตัวเองมากกว่าภาค 2 ที่เกินไปในหลายจุด ต้องรอดูว่าภาค 3 เธอจะทำให้เรารักได้เสียทีไหม

อีกทั้งเราพบว่าตัวละครอื่นๆ หลายครั้งก็ทำตัวงี่เง่าไม่ต่างกัน อ่านไปบางครั้งก็เหนื่อยนะ จะงี่เง่ากันไปถึงไหน ไม่ว่าจะเป็นหลานสาวใบบุญบัวตองหรือฤชุดานักเขียนนางเอกของเราก็เถอะ ถ้าจะให้พูดตรงๆ แล้วตัวละครที่เราดูจะประทับใจมากที่สุดเห็นจะเป็นภูชิตาในภาค 2 เธอไม่ใช่คนดีอะไรนะ เธอก็สั้นๆ ห้วนๆ แต่เราว่าเธอตรงๆ ดีน่ะ และงี่เง่าในระดับที่เรารับได้ (อันนี้ต้องรออ่านภาค 3 อีกที) ถึงเราจะบ่นเยอะแต่เราก็ไม่ได้เลิกอ่าน จะให้พูดตรงๆ ก็คือมันน้ำเน่าแต่สนุกนั่นเอง เป็น guilty pleasure ส่วนตัวของเรา ยกไว้ให้เรื่องหนึ่ง (นี่ชมนะคะ) 

ข้อเสียอีกข้อคือ เราพบว่าการใช้ภาษานั้นค่อนข้างทำขัดใจเราพอสมควร ที่จริงไม่ใช่แค่บายาวีนะ (ตอนอ่านมนต์รักหัวใจลูกทุ่งเราก็รู้สึก) คือเราไม่ชอบสรรพนามการใช้เรียกคนอื่นแบบหยาบๆ ไม่ว่าจะเป็นคนใช้ คนงาน ลูกจ้าง คนอ้วน คนหน้าตาไม่ดี หรือคนไม่ค่อยฉลาด ที่ใช้เรียกแบบจิกๆ ตลกโปกฮา เหยียดๆ แกมดูถูก เข้าใจว่ามันเป็นตัวละครแต่จุดนี้อ่านไปก็กุมขมับไป ทำให้ยิ้มไม่ออกอยู่หลายครั้ง ก็ไม่ใช่ว่าจะมาเรียกร้องความเท่าเทียมของมนุษย์ผ่านนิยายหรือว่าอะไร แค่เพียงเราพบว่ามันทำให้เราอึดอัดเวลาอ่านมากๆ

แต่บายาวีก็มีข้อดีตรงที่มันแรง ดิบ และสะใจ อาจเหมาะกับสาวกฮาร์ดคอร์? ที่ต้องการเรื่องรักประเภทพ่อแง่แม่งอนแบบรักแรงหึงแรงเวอร์ชั่นยูริ บทจะงอนก็งอนกันโลกจะแตก บทจะดีกันก็หวานจนนางพญามดเรียกหม่อมแม่ได้เลยประมาณนั้น แต่ด้วยทั้งหมดทั้งมวลที่เราชม+เน้นไปทางติมาขนาดนี้เราก็ปฏิเสธไม่ได้หรอกค่ะว่าบายาวีเป็นนิยายที่อ่านได้สนุกมากเรื่องหนึ่ง อินได้มากที่สุดเรื่องหนึ่ง จะยิ่งสนุกมากถ้าคุณไม่คิดเยอะจนเกินไปแบบเรา และที่สำคัญคงปฏิเสธไม่ได้แน่ว่าคุณลลนลเธอเป็นนักเขียนที่ใช้ภาษาได้ลื่น สละสลวย น่าอ่านสุดๆ คนหนึ่ง

ป.ล. ปกภาคแรกอยู่ในขั้นสอบผ่านเท่านั้น แต่ปกภาคสองเรียกได้ว่าเป็นปกของคัมออนที่เราชอบมากที่สุด พอๆ กับเรื่องลมลวงรักของมะบุงก็ว่าได้ และเราว่ามันเข้ากันกับเรื่องบายาวีเสียจริงๆ อ้อ! อยากจะบอกว่าทุกครั้งที่วิจารณ์ปกเนี่ยที่จริงก็แค่บ่นๆ ชมๆ ไม่เคยให้คะแนนปกด้วยหรอกนะคะ คือต่อให้ปกเป็นลายมือไก่เขี่ย แต่ถ้าเนื้อเรื่องดีสนุกเราก็ให้เต็ม 10 ได้ เดี๋ยวจะเข้าใจผิดว่าคะแนนรวมปกไปด้วยซะอีก บังเอิญเราถือคติ don't judge a book by its cover น่ะ


คะแนน ภาค 1 8/10
คะแนน ภาค 2 7.5/10

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น